ไมเกรน บรรเทาได้ด้วยการนวดบำบัด
“โรคไมเกรน” หรือที่หลายๆ คนมักเรียกว่า “โรคปวดหัวข้างเดียว” เกิดจากการที่เยื่อหุ้มสมองของคนไข้ได้รับการกระตุ้นบางอย่างส่งมาที่สมอง โดยมีสารในสมองที่ชื่อว่า “เซโรโทนิน (Serotonin)” ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งที่ทำให้หลอดเลือดเกิดการขยับตัว และโป่งพองออก ส่งผลให้เวลาคนไข้ไมเกรนปวดหัว ก็จะปวดตุ้บๆ ตุ้บๆ และอาจมีอาการอื่นๆ อีกหลายอย่างร่วมด้วย ซึ่งเป็นอาการที่ต่างกันไปในแต่ละคน ดังนี้1. เห็นแสงที่ออกมาจากสิ่งต่างๆ
หนึ่งในอาการหลักของไมเกรนคือ ผู้ป่วยจะไวต่อสีและแสง ทำให้บางครั้งผู้ที่เป็นไมเกรนจะเริ่มเห็นแสงบางอย่างจากภาพ แสงกระพริบ ภาพต่างๆ เป็นจุดหรือเป็นเส้น โดยอาจจะเห็นแสงเปล่งออกมาจากสิ่งนั้นๆ เล็กน้อย ก่อนจะเห็นเพิ่มขึ้นเป็นเส้นโค้งยาวได้ อาการนี้มักเกิดขึ้นประมาณห้านาทีถึงหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะปวดหัวรุนแรง หรือในผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการปวดหัวเลยก็ได้2. อาการซึมเศร้า หงุดหงิด หรือตื่นเต้น
การเปลี่ยนแปลงอารมณ์อาจเป็นสัญญาณของไมเกรน ผู้ป่วยบางรายจะรู้สึกหดหู่ หรือรู้สึกแย่โดยไม่มีเหตุผล ในขณะที่บางกลุ่มอาจจะรู้สึกตื่นเต้นหรือรู้สึกดีมากๆ ซึ่งจากการวิจัยพบว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจมีความเชื่อมโยงทางพันธุกรรมระหว่างภาวะซึมเศร้าและไมเกรน3. อาการปวดหัวหนึ่งหรือสองข้างของศีรษะ
อาการปวดหัวอย่างรุนแรงเป็นสัญญาณทั่วไปของไมเกรน โดยจะมีอาการรู้สึกปวดตุ้บๆ ด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ4.ปวดตา
อาการปวดไมเกรนมักจะมีอาการปวดโพรงตาร่วมด้วย ซึ่งเป็นอาการที่ทำให้คนส่วนใหญ่หงุดหงิด และทำให้รู้สึกปวดล้าที่ตา สำหรับบางคนอาจจะปวดมากจนต้องไปตรวจตา แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้อาการปวดตาหรือปวดหัวดีขึ้นได้ เพราะต้นเหตุจริงๆ แล้วคือไมเกรน5. ปวดคอ
ในผู้ป่วยหลายรายมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีอาการคอแข็ง แล้วจากนั้นก็ปวดหัว ซึ่งอาจเป็นอาการเริ่มต้นของไมเกรน หรือหลังจากเป็นไมเกรนแล้ว บางคนจะรู้สึกปวดตุ้บๆ ที่คอ ในการสำรวจทางออนไลน์โดยมูลนิธิ National Headache Foundation พบว่า 38% ของผู้ป่วยไมเกรนมีอาการปวดคออยู่ตลอดเวลา และ 31% มีอาการปวดคอบ่อยครั้งในช่วงที่มีอาการปวดหัวไมเกรน6. วิงเวียนศีรษะ หรือตาลาย
บางครั้งไมเกรนอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หรือสูญเสียการมองเห็น จากการศึกษาพบว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างความรุนแรงของไมเกรนและอาการวิงเวียนศีรษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีอาการหนัก จะรู้สึกวิงเวียนมาก7. ปวดหัวค้าง
มักมีอาการเมื่อยล้า ไม่มีสมาธิ รู้สึกอ่อนแรง เวียนศีรษะ และรู้สึกสูญเสียพลังงานในช่วงเป็นไมเกรน ทำให้รู้สึกเหนื่อยและปวดหัวมากการรักษาและการป้องกัน
โรคไมเกรนไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถลดความถี่หรือป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ สำหรับการรักษาด้วยการใช้ยา เช่น ยาในกลุ่มทริพแทน (triptans) และเออร์กอทอัลคาลอยด์ (ergot alkaloids) รวมถึงยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)นอกจากการใช้ยาแล้ว ผู้ป่วยสามารถลดความถี่ของโรคไมเกรนได้โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ โดยเฉพาะแสงแดดจ้า เสียงดัง รวมถึงอาหารบางชนิด รวมถึงการนวดประคบ นอกจากการประคบและการนวดกดจุดที่ช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้ ศาสตร์การแพทย์ตะวันออก เชื่อว่าร่างกายคนเรามีเส้นลมปราณ ที่ทำหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนเลือดและความสมดุลของพลัง แต่เมื่อเกิดความเครียดหรือสภาวะผิดปกติที่ส่วนใด จะส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นเกิดอาการตึง เกร็ง เป็นเหตุให้พลังปราณติดขัด ร่างกายจึงเสียสมดุลและเจ็บป่วย จึงต้องนวดกดจุดเพื่อเปิดช่องพลังปราณ เมื่อพลังปราณไหลเวียนดี ร่างกายก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ดังนั้นการนวดกดจุด จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้
นอกจากนี้ ที่สำคัญคือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการกำจัดความเครียดอย่างเหมาะสม
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก https://www.honestdocs.co/
ร้านนวดธรรญา นวดไทยและสปา ลาดพร้าว ซอย 1
ร้านเปิด 10:00 - 22:00 ค่ะ
เพื่อความสะดวกของลูกค้า สามารถจองล่วงหน้าได้ที่นี่นะคะ
☎ 089-890-1870 คะ
☎ 098-250-0495
Line ID : ThanyaAroma
คลิกเพื่อแอ๊ดไลน์ ที่ Line: http://line.me/ti/p/F3VsxNw-Yq
Facebook fanpage https://www.facebook.com/ThanyaAroma/
#ร้านนวดธรรญา
#ร้านนวดลาดพร้าว
#ลาดพร้าวซอย1
#thanyaaromamassageandspa
-----------------------------------------